น้ำผึ้ง พลังการรักษาจากธรรมชาติ

น้ำผึ้ง

น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางยาคือ สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ เพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ซึ่งความเข้มข้นนี้เองจะช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดสูง และมีปริมาณโปรตีนต่ำ ซึ่งทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็น นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีสารไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียด้วย ดังนั้นเมื่อเราใช้น้ำผึ้งทาบาดแผลจึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้และทำให้แผลไม่เกิดการอักเสบ ประโยชน์จากธรรมชาติสารพัดอย่าง 1. รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลและลดการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบและช่วยให้แผลหายเร็ว เพราะทั้งน้ำผึ้ง มีสรรพคุณรักษาบาดแผล สมานเนื้อเยื่อและบำรุงผิว 2. รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อรา 3. แก้อาการท้องผูกและแก้ท้องเสีย 4. แก้นอนไม่หลับ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับความรู้ดีดีก่อนใคร ได้ที่เพจ Young Youและเป็นเพื่อนกับเราได้ทาง Line : @youngyou เพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น #สารสกัดสมุนไพร#สุขภาพ#สกัดจากธรรมชาติ#ชะลอวัย#youngyou#ยังยู#น้ำผึ้ง#honey

กล้วยน้ำว้า

กล้วยน้ำว้า ถึงจะเป็นผลไม้ที่ไม่น่าจะให้พลังงานได้เยอะ แต่เชื่อหรือไม่ว่ากล้วยเป็นแหล่งพลังงานสํารองชั้นดี ในกล้วย 1 ผล สามารถให้พลังงานได้ถึง 100 แคลอรี่ มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิด ทั้ง ซูโครส ฟรุคโตส และกลูโคส รวมไปถึงเส้นใยและกากอาหาร และอุดมด้วย วิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน ช่วยป้องกันโรคความดัน กล้วยน้ำว้ามีคุณค่าสารอาหารที่พิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่น นั่นก็คือ โปรตีนที่อยู่ในกล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโน อาร์จินิน และอีสติดิน ซึ่งมีความจําเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก โดยในกล้วยน้ำว้า จะมีสารที่ชื่อว่า “เซโรโทนิน” ที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกตามธรรมชาติออกมาเคลือบแผล และลดการระคายเคืองและอาการแสบร้อนท้องได้ กระเพาะแข็งแรงขึ้นโอกาสเป็นแผลก็น้อยลง ขณะเดียวกันยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย สรรพคุณของกล้วยน้ำว้าช่วยป้องกันโรค 1.ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ รับประทานวันละ 5 – 6 ผล จะช่วยให้อาการระคายเคืองลดน้อยลง 2. ระงับกลิ่นปากได้ 3. สามารถรักษาโรคกระเพาะ เพราะในกล้วยน้ำว้ามีสารแทนนินอยู่มาก ซึ่งสามารถช่วยรักษาอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงได้ 4. แก้ท้องผูก ก็สามารถแก้ท้องเดินหรือท้องเสียได้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ […]

ขิง จินเจอร์รอล

ขิง จินเจอร์รอล

ขิง มหาโอสถอันเก่าแก่ที่เอเชียโบราณรู้จักดี  จัดว่าเป็นสมุนไพรและเครื่องเทศที่มีความสำคัญ และเก่าแก่ชนิดหนึ่งของโลก มีหลักฐานการใช้ยาวนานกว่า 5,000 ปี มีการใช้อย่างกว้างขวางในประเทศอินเดียและจีนสมัยโบราณ จัดว่าเป็นสมุนไพรนานาชาติอีกชนิดหนึ่งที่แพร่กระจายไปทั่วโลกมานาน มีหลักฐานว่าในประเทศตะวันตกมีการนำขิงไปใช้ประโยชน์ตั้งแต่มีการติดต่อค้าขาย ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หมอชาวกรีกจะใช้ขิงช่วยย่อยอาหาร แก้คลื่นไส้อาเจียน และช่วยแก้พิษ “กาเลน” แพทย์ที่มีชื่อเสียงของกรีกได้มีการนำขิงมาใช้ในการรักษาอัมพาต โรคปวดปลายประสาท และโรคเกาต์  ในปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยสารสำคัญของขิง นั่นคือ จินเจอรอล (Gingerol) และใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เช่น ทางด้านของการช่วยย่อยอาหาร ด้านการไหลเวียนของเลือดลดความดันเลือด ลดโคเลสเตอรอล ลดการอักเสบและใช้เป็นยาแก้ปวดและมีงานวิจัยที่ศึกษาฤทธิ์ในการลดการปวดและอักเสบของยาจากขิงเมื่อเปรียบเทียบกับ ยาไอบูโพรเฟน (ซึ่งเป็นยาแก้ข้ออักเสบ) แล้วให้ผลใกล้เคียงกัน และไม่พบผลข้างเคียงจากการใช้ยาสกัด ปัจจุบันค้นพบว่าขิงมีสารที่สามารถต้านอนุมูลอิสระอย่างแรง ซึ่งสามารถกินเป็นอาหารเสริมสุขภาพเพื่อชะลอความชราของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้ ส่งผลให้ขิงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงสุขภาพมากขึ้น และแพร่หลายทั่วโลก อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับความรู้ดีดีก่อนใคร ได้ที่เพจ Young Youและเป็นเพื่อนกับเราได้ทาง Line : @youngyou เพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น #สารสกัดสมุนไพร#สุขภาพ#สกัดจากธรรมชาติ#ชะลอวัย#youngyou#ยังยู#ขิง#จินเจอร์รอล#Gingerol

จุดสะท้อนเท้าคืออะไร ?

จุดสะท้อนเท้า

เท้า เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่สำคัญของร่างกายที่ช่วยรองรับน้ำหนักตัวทั้งหมด ยังเป็นที่ซ่อนแถบบำบัด “Zone Therapy” จุดสะท้อนเท้าในลักษณะนี้จะต้องอาศัยกระบวนการที่เรียกว่า “กระบวนการสะท้อนกลับของร่างกาย หรือ reflexology”  เท้ามนุษย์มีตำแหน่งการตอบสนองต่างๆ ซึ่งสัมพันธ์กับทุกส่วนของร่างกาย หากมีส่วนใดของร่างกายเกิดความไม่สมดุลขึ้น ทำให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ  จุดสะท้อนที่เท้ามีทั้งหมด 62 จุดแต่ละจุดเป็นปลายประสาท ที่เชื่อมโยงไปยังอวัยวะที่สำคัญในร่างกายทั้งหมด 62 อย่าง และมีความรู้สึกรับรู้ทั้งหมด 62 แบบ  หากทำการกระตุ้นที่จุดสะท้อนใดย่อมสะท้อนไปยังอวัยวะที่สัมพันธ์กับจุดสะท้อนนั้น ๆ โดยตรง และการปรับสมดุล ส่งผลให้เกิดความฟื้นฟูและผลักดันให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น กระบวนการดังกล่าวจะเน้นไปที่การปรับสมดุลผ่านระบบหมุนเวียนเลือดเป็นหลัก จุดสะท้อนฝ่าเท้า  จะส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะหลัก ๆ 7 ระบบ คือ ระบบขับถ่าย ระบบสมอง ระบบฮอร์โมน ระบบการฟัง ระบบประสาทไขสันหลัง ระบบต่อมน้ำเหลือง และระบบภูมิต้านทาน อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับความรู้ดีดีก่อนใคร ได้ที่เพจ Young Youและเป็นเพื่อนกับเราได้ทาง Line : @youngyou เพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น #สารสกัดสมุนไพร#สุขภาพ#สกัดจากธรรมชาติ#ชะลอวัย#youngyou#ยังยู#จุดสะท้อนเท้า#FootReflexology

สะระแหน่ – Peppermint

สะระแหน่ Ppapermint

สะระแหน่ มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในยุโรป แล้วกระจายพันธุ์อยู่ทั่วไป ทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือ รวมทั้งในภูมิภาคอื่นๆ ของโลก โดยเฉพาะเขตร้อนและเขตอบอุ่น จึงมีการพัฒนาสายพันธุ์เองตามธรรมชาติเพื่ออยู่รอดตามสภาพอากาศของถิ่นต่างๆ ที่กระจายพันธุ์ไป หรือเกิดผสมข้ามพันธุ์จนกลายมาเป็น สะระแหน่สายพันธุ์ต่างๆ เช่น สะระแหน่ไทย สะระแหน่ฝรั่ง สะระแหน่ญวณ เป็นต้น สำหรับประเทศไทย เชื่อกันว่าสะระแหน่ถูกนำเข้ามาในเมืองไทยในช่วงรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) โดยชาวอิตาเลียนชื่อนายสะระนี ด้วยเหตุนี้ จึงสันนิษฐานว่า ชื่อสะระแหน่ มาจากชื่อของนายสะระนี นั่นเอง ประโยชน์และสรรพคุณของสะระแหน่ ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ แก้ฟกบวม แก้ปวดบวม ช่วยขับเหงื่อ ช่วยลดอาการหืดหอบ ใช้ลดอาการคัดจมูก ช่วยลดอาการท้องอืดและท้องเฟ้อ แก้อาการอักเสบของแผล พิษแมลงต่อย ผดผื่นคัน ข้อแนะนำและข้อควรระวัง ในการใช้สะระแหน่ เพื่อรักษา หรือป้องกันโรคต่างๆนั้น ควรใช้แต่พอดี ไม่ใช้มากเกินกว่าปริมาณที่กำหนดในตำรับยาต่างๆ และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือต้องรับประทานยาเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับความรู้ดีดีก่อนใคร ได้ที่เพจ Young You และเป็นเพื่อนกับเราได้ทาง Line : […]

ไพล – Phlai

ไพล - Phlai

ไพล พรรณไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียแถบประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย พืชชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ทั่วไปในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยนั้นพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ไพล เป็นพืชสมุนไพรกลุ่มเดียวกันกับขมิ้น สรรพคุณของไพลจึงมีสารสีเหลืองที่เรียกว่าเคอร์คูมิน ( Curcumin ) เหมือนกัน แต่จะต่างกันในรายละเอียด  เพราะเคอร์คูมินก็ยังแยกย่อยออกไปอีกหลายชนิด นั่นทำให้สรรพคุณในการรักษาโรคของสมุนไพรทั้งสองไม่เหมือนกันซะทีเดียว และก็ไม่สามารถใช้แทนกันได้ ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาจะคล้ายคลึงกันมากขนาดไหนก็ตาม ไพลมีน้ำมันหอมระเหยเป็นส่วนประกอบ มากถึง 14% ช่วยลดอาการปวดบวมในการรักษาข้อเท้าแพลงได้ สรรพคุณของไพล มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์แก้ฟกช้ำ ปวดบวม ปวดเมื่อย ลดอาการอักเสบภายนอก บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และขับลม บรรเทาอาการบิดหรือท้องเสีย บรรเทาอาการของโรคหอบหืด อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับความรู้ดีดีก่อนใคร ได้ที่เพจ Young You และเป็นเพื่อนกับเราได้ทาง Line : @youngyou เพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น #สารสกัดสมุนไพร #สุขภาพ #สกัดจากธรรมชาติ #ชะลอวัย#youngyou#ยังยู#ไพล#Phlai#Cassumunarginger#Bengalroot

ถ่านไผ่ – Bamboo Reform

ถ่านไผ่ - Bamboo Reform

ถ่านไม้ไผ่ (Bamboo Charcoal) คือถ่านที่ได้จากการเผาไม้ไผ่ในอุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียส มีรูปทรงของไม้ไผ่ชัดเจน ผิวของถ่านจะมีความเงาเล็กน้อย  หากเคาะกับพื้นแข็งจะมีเสียงดังกังวานเหมือนโลหะ มีความบริสุทธิ์ของธาตุคาร์บอนสูง ประโยชน์ของถ่านไม้ไผ่ ประจุลบที่ถ่านไม้ไผ่ปล่อยออกมาจะทำปฏิกิริยา เพื่อเปลี่ยนอนุมูลอิสระเป็นออกซิเจนนั้น มีผลต่อความดันโลหิต ระบบการหายใจและระบบประสาททางานอัตโนมัติมีประสิทธิภาพขึ้น มีผลต่อการนอนหลับและผ่อนคลาย รังสีอินฟราเรตคลื่นยาวจากถ่านจะช่วยรักษาความอบอุ่นของร่างกาย ช่วยดูดซับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จากเครื่องคอมพิวเตอร์ เตาอบและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับความรู้ดีดีก่อนใคร ได้ที่เพจ Young You และเป็นเพื่อนกับเราได้ทาง Line : @youngyou เพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น #สารสกัดสมุนไพร #สุขภาพ #สกัดจากธรรมชาติ #ชะลอวัย#youngyou#ยังยู#ถ่านไม้ไผ่#bambooreform

กานพลู (Syzygium aromaticum)

กานพลู (Syzygium aromaticum)

กานพลู (Syzygium aromaticum) สรรพคุณตามตำรายาไทย ดอก มีรสเผ็ด และมีสรรพคุณทางยา เช่น แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ปวดฟัน ดับกลิ่นปาก เป็นยาทำให้ร้อนเมื่อถูกผิวหนังทำให้ชา เป็นยาฆ่าเชื้อ แก้ปวดฟัน แก้รำมะนาด แก้ปวดท้อง มวนในลำไส้ แก้ลม แก้เหน็บชา เป็นต้น  น้ำมันกานพลู (Clove oil) เป็นยาชาเฉพาะที่ แก้ปวดฟัน โดยใช้สำสีชุบนำมาอุดที่ฟัน ระงับการกระตุก ตะคริว ขับผายลม แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืด ผสมยากลั้วคอ แต่งกลิ่นอาหาร แต่กลิ่นสบู่ ยาสีฟัน ดับกลิ่นปาก ดับกลิ่นเหล้า ไล่ยุง องค์ประกอบทางเคมี กานพลูมีน้ำมันระเหยง่ายร้อยละ 14-23 ของน้ำหนักแห้ง มีองค์ประกอบหลักเป็นสารชื่อ “ยูจีนอล” (eugenol) ปัจจุบันนำมาใช้ทางทันตกรรม และใช้แก้ปวดฟัน การศึกษาทางเภสัชวิทยา มีฤทธิ์ระงับปวด โดยพบว่าการระงับปวดจะขึ้นอยู่กับขนาดยาที่ได้รับ และมีฤทธิ์ระงับปวดอย่างน้อย 30 นาทีและการศึกษาพบว่าฤทธิ์ระงับปวดที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องมาจาก eugenol  มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดไมเกรน […]

อบเชย (Cinnamomum spp)

อบเชย (Cinnamomum spp)

อบเชย (Cinnamomum spp) ได้จากเปลือกชั้นในของต้นอบเชย มีกลิ่นหอมเฉพาะ รสสุขุม เผ็ด หวานเล็กน้อย ในส่วนเปลือกของอบเชยประกอบไปด้วยสารแทนนิน (Tannins) จึงเป็นเครื่องเทศที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยสมานแผล ป้องกันอาการท้องร่วง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ มีงานวิจัยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ในเปลือกอบเชยยังมีน้ำมันหอมระเหยที่เป็นองค์ประกอบหลักโดยมักมีการนำเปลือกมาบดเป็นผงประกอบอาหาร หรือใช้เป็นสารแต่งกลิ่นในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก สบู่ เครื่องสำอาง และยารักษาโรคของแพทย์แผนจีนโบราณ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับความรู้ดีดีก่อนใคร ได้ที่เพจ Young You และเป็นเพื่อนกับเราได้ทาง Line : @youngyou เพื่อรับสิทธิพิเศษเฉพาะเพื่อนของเราเท่านั้น #สารสกัดสมุนไพร #สุขภาพ #สกัดจากธรรมชาติ #ชะลอวัย #youngyou #ยังยู #อบเชย #Cinnamomumspp

เถาวัลย์เปรียง (Derris scandens)

เถาวัลย์เปรียง (Derris scandens)

เถาวัลย์เปรียง (Derris scandens) เป็นสมุนไพรไทย ประเภทพืชวัตถุ ใช้เถาทำยา มีสรรพคุณทางตำรายาโบราณในทางขับปัสสาวะ แก้บิด แก้หวัด แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้กระษัยเหน็บชา แก้เส้นเอ็นพิการ ถ่ายเส้น ถ่ายกระษัย ทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง แก้เส้นเอ็นขอด เป็นต้น  บางตำรากล่าวว่า “ทำให้มีกำลังดี แข็งแรง สู้ไม่ถอย” มีการศึกษาข้อมูลทางพฤกษเคมี สารออกฤทธิ์ทางยา และทำวิจัยไว้มากมายเกี่ยวกับการนำเถาวัลย์เปรียงไปใช้  การศึกษาทางเภสัชวิทยา  สารสกัดในเถาวัลย์เปรียงมีฤทธิ์ต่างๆ ดังนี้ ฤทธิ์ต้านอักเสบ สามารถยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-1 (COX-1) ทำให้การสร้างสารที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ ได้แก่ พรอสตาแกลนดินลดลงออกฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุมกัน โดยเพิ่มการทำงานของ natural killer (NK) cells การศึกษาฤทธิ์ทางคลินิค  สารสกัดในเถาวัลย์เปรียงมีฤทธิ์ ดังนี้  มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่าง มีฤทธิ์ลดอาการข้อเข่าอักเสบ มีฤทธิ์ในการแก้ปวด จากการศึกษาพบว่า เถาวัลย์เปรียงมีประสิทธิภาพ ในด้านการลดอาการปวดไม่แตกต่างจากยากลุ่ม NSAIDs มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน และมีความปลอดภัยแม้จะทานสารสกัดขนาด 400 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกันนาน 2 เดือน  การศึกษาทางพิษวิทยา เถาวัลย์เปรียง มีสารที่มีฤทธิ์เช่นเดียวกับฮอร์โมนเพศหญิง จึงควรระวังถ้าจะรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน #สารสกัดสมุนไพร #สุขภาพ #สกัดจากธรรมชาติ #ชะลอวัย#youngyou #ยังยู #เถาวัลย์เปรียง